วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

องค์ประกอบเพื่อทำให้บ้านน่าอยู่และมีราคา



ผู้เขียน : อนุชา กุลวิสุทธิ์ิ

คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า บ้านน่าอยู่บางอย่างของบ้านเท่านั้นคือบ้านในอุดมคติที่ทุกคนต่างถวิลหากันทั้งนั้น เพราะเป็นบ้านที่จะนำพาความสุขมาให้กับสมาชิกในครอบครัวได้อย่างมาก

คุณค่าในแง่ความรู้สึกเช่นนี้ส่งผลทำให้บ้านชนิดนี้เวลาคิดจะขาย ก็จะขายได้ง่ายกว่าบ้านโดยทั่วไป แถมยังได้ราคาดีด้วยต่างหาก

ทำอย่างไรจึงจะสามารถเป็นเจ้าของบ้านน่าอยู่ได้จึงเป็นคำถามที่ทุกคนต้องการทราบคำตอบกัน

บางคนถึงกับอุทิศเวลาเพื่อตามล่าหาบ้านชนิดนี้กับแบบพลิกแผ่นดิน แต่จนแล้วจนรอดก็หาไม่เจอซักที

ที่จริงแล้วการเป็นเจ้าของ บ้านน่าอยู่สักหลัง กลับหาใช่เรื่องยากเย็นแสนเข็ญอย่างที่หลายคนคิดกันแต่อย่างใด เพราะบ้านประเภทนี้สามารถพบเห็นได้ทุกหนแห่งและเกิดขึ้นกับบ้านได้ทุกหลัง

แม้แต่บ้านหลังเก่าซึ่งสมาชิกในครอบครัวต่างลงความเห็นว่าไม่น่าอยู่ ไม่ดีอย่างโน้นไม่ดีอย่างนี้ ก็ล้วนสามารถเปลี่ยนแปลงหรือเนรมิตให้กลายเป็นบ้านน่าอยู่ได้ทั้งสิ้น

เพียงแค่อาศัยเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ในการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบบางอย่างเท่านั้น

บ้านที่จะทำให้ทุกคนเราเกิดความสุขในการอยู่อาศัยได้ดี จะต้องมีคุณลักษณะต้องตามองค์ประกอบหลัก 8 ประการ ดังนี้

1. บ้านต้องมีความสะดวก คือ สะดวกกับผู้อยู่อาศัยในการทำกิจกรรมส่วนตัวและส่วนรวม และเกิดการประหยัดทั้งเวลา แรงงานและเงิน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วความสะดวกจะเกิดขึ้นได้จากสิ่งต่างๆ เหล่านี้

เลือกทำเลบ้านอย่างเหมาะสม

โดยเน้นให้อยู่ใกล้สถานที่ซึ่งผู้อยู่อาศัยต้องไปประจำ เช่น ที่ทำงานโรงเรียน ตลาด หรือ ห้างสรรพสิ้นค้า ฯลฯ และมีความปลอดภัยในการเดินทางด้วย เช่น ตัวบ้านจะต้องอยู่ใกล้ถนนใหญ่ ไม่ลึกหรือเปลี่ยวจนเกินไป นอกจากนี้ต้องอยู่ในย่านที่มีเพื่อนบ้านและชุมชนที่ดีด้วย

การจัดวางผังบ้านสะดวกในการเดินทางเข้าออก

เช่น ระยะห่างจากประตูรั้วกับประตูบ้าน ระยะห่างจากตัวบ้านไปยังบริเวณซักล้าง ตากผ้า และครัวหรือโรงรถที่แยกอยู่ต่างหาก

แบ่งเนื้อที่และจัดเครื่องเรือนให้สอดคล้องกับกิจกรรมในบ้าน และไม่ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกอึดอัด

เช่น กรณีห้องกว้างก็ไม่ควรจัดเครื่องเรือนกระจัดกระจาย ซึ่งจะทำให้เปลืองแรงและเสียเวลาเกินความจำเป็น

จัดบริเวณทำงานในบ้านแต่ละจุดให้สะดวก

โดยเน้นให้สามารถทำงานตามลำดับขั้นตอนของงานได้ง่าย

เลือกใช้เครื่องเรือนที่ง่ายต่อการดูแลรักษาและทำความสะอาด

จัดเก็บอุปกรณ์เครื่องใช้ให้เป็นที่เป็นทาง

โดยจัดเก็บไว้ในห้องเก็บของ ตู้ หรือชั้นวางของ เพื่อให้บ้านดูสะอาด ไม่รกรุงรัง มีระเบียบ และไม่ต้องเสียเวลาในการค้นหา

จัดทางสัญจรในบ้านให้มีทางเดินติดต่อถึงกันสะดวก

เช่น ระหว่างห้องนอนพ่อแม่กับห้องนอนลูก ระหว่างห้องครัวกับห้องกินข้าว และห้องนอนกับห้องน้ำ ฯลฯ

2. บ้านต้องอยู่แล้วสบาย

คือต้องทำให้เกิดความสบายกาย สบายตา และสบายใจได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งปกติแล้วความสบายจะเกิดขึ้นได้จากสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้

วางตัวบ้านให้เหมาะกับทิศทางของแดดและลม โดยเน้นให้มีการหลบอแดดแต่มีการรับลม

บ้านควรมีวัสดุที่ป้องกันความร้อนจากภายนอกได้ ไม่ว่าจะเป็นความร้อนโดยตรงจากแสงอาทิตย์ หรือจากการสะท้อนหรือการแผ่รังสีความร้อน

มีประตู หน้าต่างได้สัดส่วนกับพื้นห้อง และอยู่ในตำแหน่งที่ง่ายต่อการรับลมและถ่ายเทอากาศ

รูปร่างของเครื่องเรือนเหมาะสมกับการใช้งานและมีขนาดได้ส่วนกับผู้ใช้ เช่น เลือกโต๊ะรีดผ้าที่สามารถปรับความสูงต่ำได้ ซึ่งจะช่วยได้รีดผ้าได้อย่างสบาย

มีความสงบเงียบ กิจกรรมบางอย่างต้องการความเงียบ เช่น ห้องนอนหรือมุมงาน ดังนั้นห้องเหล่านี้ต้องห่างจากกิจกรรมที่มีเสียงดัง เช่น ห้องรับแขกเป็นต้น

ตกแต่งหน้าต่าง ผนัง และมุมห้อง โดยตกแต่งหน้าต่างด้วยผ้าม่านเพื่อความสวยงาม กันแสง และเพื่อความเป็นส่วนตัว ผนังตกแต่งด้วยภาพหรือกระจกเงาส่วนมุมห้องให้ตั้งกระถางดอกไม้ประดับเพื่อความสวยงามและสบายตา

3. บ้านต้องมีความปลอดภัย

ความปลอดภัยเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่มีส่วนสำคัญไม่น้อยในการผลักดันให้บ้านน่าอยู่ ซึ่งปกติความปลอดภัยจะเกิดขึ้นได้จากสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้

เลือกวัสดุก่อสร้าง และวิธีสร้างบ้านอย่างเหมาะสมไม่ให้เกิดการทรุด และต้องทำระดับพื้นบ้านให้สูงเสมอกันเพื่อกันสะดุดหรือหกล้ม ส่วนพื้นห้องน้ำปูด้วยวัสดุที่ไม่ลื่นและทำความสะอาดได้ง่าย

มีอุปกรณ์กันไฟช็อต ไฟไหม้ โดยติดตั้งอุปกรณ์ตัดไฟรั่ว และมีน้ำยาเคมีดับเพลิงไว้ประจำบ้าน จัดให้มีความสะดวกในการหนี้ไฟ เช่น มีประตูและบันไดหนี้ไฟ เป็นต้น

เก็บยาและสารเคมีที่เป็นพิษไว้ในที่มิดชิดและแยกไว้ต่างหาก โดยไม่เก็บรวมกับอาการหรือยาอื่นๆ

4. บ้านต้องถูกสุขลักษณะ ซึ่งอาจทำได้ดังนี้

มีการระบายอากาศที่ดี เลือกบ้านที่ไม่ตั้งอยู่ในย่านอุตสาหกรรม หรือชุมชนแออัดวางตัวบ้านให้ถูกทิศทางลม และมีประตูหน้าต่างเพียงพอให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก

มีระบบระบายน้ำภายในบ้านที่ดี

การถ่ายเทน้ำเสียหรือน้ำเหลือใช้สู่ท่อระบายน้ำสาธารณะจะต้องทำได้ง่ายและสะดวก เพื่อไม่ให้น้ำขังอยู่ในบ้าน ซึ่งจะเป็นบ่อเกิดของเชื้อโรค ยุง แมลงและกลิ่น

มีความสะอาด

ต้องทำความสะอาดทั้งในบ้านและบริเวณรอบบ้านตลอดจนเครื่องเรือนเครื่องใช้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา

มีห้องน้ำห้องส้วมที่สะอาดและถูกสุขลักษณะ

มีที่รองรับขยะและกำจัดขยะทุกวัน

5. บ้านต้องมีความเป็นสัดส่วน

ซึ่งจะ ช่วยลดความขัดแย้งในครอบครัวได้มาก ทั้งนี้บ้านจะน่าอยู่ได้จำเป็นต้องมีที่ที่ให้ทุกคนสามารถหาความสุขสงบเป็นส่วนตัวได้เมื่อต้องการคือต้องมีลักษณะดังนี้

มีความเป็นสัดส่วนหรือความเงียบสงบ

ปราศจากการรบกวนจากภายนอกบ้าน เช่น จากเพื่อนบ้าน โดยควรมีรั้วที่สามารถกันฝุ่น เสียง และช่วยให้พ้นสายตาบุคคลภายได้นอก มีความเป็นสัดส่วนภายในบ้าน เช่น ห้องนอนแยกห่างจากห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก มุมทำงานแยกจากห้องพักผ่อนหรือห้องนั่งเล่นห้องรับแขกและบริเวณพักผ่อนควรจัดให้พ้นจากกลิ่นและเสียงจากครัว

6. บ้านต้องส่งเสริมความสัมพันธ์อันดี

โดยจัดเนื้อที่ใช้สอยภายในบ้านให้เหมาะสมกับกิจกรรม และให้สมาชิกทุกคนได้รับความสะดวกสบาย อยู่ร่วมกันด้วยความอบอุ่นและเข้าใจซึ่งกันและกัน เช่น ในบ้านควรมีห้องหนึ่งกว้างพอที่จะเป็นที่รวมของทุกคน เพื่อใช้พบปะพูดคุยปรับทุกข์หรือทำงานร่วมกัน หรือมีที่กินอาหาร ที่พักผ่อนร่วมกัน และมีเครื่องเรือนใช้เพียงพอกับจำนวนสมาชิกเมื่ออยู่พร้อมหน้ากัน และสามารถใช้เป็นที่รับรองเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องที่มาเยี่ยมเยียนได้ การสร้างบรรยากาศเหล่านี้เป็นช่องทางให้เกิดความใกล้ชิดสนิทสนมรักใคร่ผูกพันกัน นำความสุขสงบและความก้าวหน้ามาสู่ครอบครัวและชุมชนได้เป็นอย่างดี

7. บ้านต้องสวยงาม

การตกแต่งบ้านสามารถบอกอุปนิสัยและรสนิยมของเจ้าของบ้านได้ สำหรับภายในบ้านการเลือกเครื่องเรือนเครื่องใช้ต้องคำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมของผู้อยู่อาศัย โดยสิ่งที่ควรคำนึงไปพร้อมๆ กับความสวยงามก็คือประโยชน์ใช้สอย และในขณะเดียวกันต้องพิจารณาการเลือกใช้วัสดุรูปทรงและสี ที่ง่ายและสะดวกในการทำความสะอาดและบำรุงรักษาด้วย

8. บ้านต้องมีการตกแต่งบริเวณบ้าน

บริเวณบ้านจัดเป็นสถานที่มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพื้นที่ภายในบ้าน เพราะเป็นจุดแรกที่ผู้เดินผ่านหรือแขกได้เห็นก่อนสิ่งอื่น การจัดสวน จัดบริเวณสนามจะช่วยให้บ้านดูร่มรื่นสวยงามน่าอยู่ต้นไม้ที่ปลูกในบริเวณบ้านสามารถช่วยลดความกระด้างของตัวอาคาร ร่มเงาของต้นไม้ช่วยคลายความร้อน บริเวณรอบนอกสามารถจัดเป็นลานนั่งเล่น เป็นที่พักผ่อนรับแขก จัดเลี้ยงในหมู่เพื่อนฝูง และยังใช้เป็นมุมสงบส่วนตัวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ในทางปฏิบัติแล้วบ้านส่วนใหญ่มักมีข้อจำกัดเฉพาะตัว ที่ไม่สามารถจัดการองค์ประกอบ เช่น บ้านเก่า องค์ประกอบที่มักไม่สามารถจัดการหรือเปลี่ยนแปลงได้เลยก็คือทำเลที่ตั้งและการวางแผน

อย่างไรก็ดีแม้องค์ประกอบบางอย่างจะแก้ไขใดๆ ไม่ได้ แต่ก็ยังคงมีองค์ประกอบอีกหลายอย่างที่ยังคงสามารถจัดการได้อยู่ หลักการง่ายๆในการทำบ้านให้น่าอยู่ก็คือ ยิ่งปรับปรุงได้มาก องค์ประกอบเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสร้างเสริมความน่าอยู่ให้กับบ้านได้มากเพียงนี้

ที่มา : บ้านพร้อมที่อยู่ ปีที่ 10 ฉบับที่ 104 กรกฎาคม 2550

รวมไอเดียบ้านน่าอยู่

รวมไอเดียบ้านน่าอยู่ จากนิตยสารบ้านและสวน


วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

100 เคล็ดลับคู่บ้าน



100 เคล็ดลับคู่บ้าน

1. โรงรถมีกลิ่นอับมาก จะขจัดกลิ่นออกได้โดยโรยหญ้าที่เพิ่งตัดมาใหม่ๆ ลงบนพื้นโรงรถ แล้วปล่อยทิ้งไว้สักระยะหนึ่ง ต้นหญ้าจะดูดเอากลิ่นอับในโรงรถออกไปจนหมด

2. ถ้าต้องการอบผ้า 2-3 ชิ้นให้แห้งเร็วขึ้นทำได้โดยหาผ้าขนหนูสะอาดๆ ใส่ลงไปในเครื่องด้วยเพราะผ้าขนหนูจะไปช่วยดูดซับความชื้นทำให้ผ้าแห้งเร็วขึ้นอีก

3. วิธีทำให้กรอบกระจกเงา หรือกรอบกระจกรูปภาพมองดูใหม่เสมอ ทำได้โดยการใช้ผ้าชุบน้ำมันสน แล้วทาบริเวณกรอบไม้ รอจนแห้งสนิท กรอบจะมองดูใหม่ทันที

4. วิธีล้างคราบสกปรกที่แก้วเจียระไน ทำง่ายๆคือหาเปลือกฝรั่งใส่ลงไปในแก้วเจียระไน แช่ทิ้งไว้สัก 2-3 ชั่วโมง แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้แก้วจะดูใสสะอาด

5. วิธีทำความสะอาดเครื่องเคลือบที่ทำด้วยทองเหลืองมีวิธีการทำง่ายๆ คือนำเอาหัวหอมมาต้มในน้ำเดือด แล้วนำมาขัดลงบนเครื่องเคลือบเพียงเท่านี้เครื่องเคลือบจะมองดู ใหม่สะอาดหมดจดทีเดียว

6. วิธีการขจัดคราบไขมันที่ติดรอบท่ออ่างล้างจาน ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานๆ จะเป็นเหตุให้ท่ออุดตันได้ มีวิธีทำคือ นำเกลือแกงใส่ลงไปในท่อ 2-3 ช้อน จากนั้นนำเบกกิ้งโซดาหรือผงฟูต้มน้ำให้เดือดแล้วเทลงไป ไขมันที่อุดตันก็จะหลุดออกไปหมด

7. วิธีขจัดพวกมดแมลงมาขึ้นถังขยะทำได้ง่ายๆ โดยหยดแอมโมเนียลงข้างๆ ถังขยะ สักเล็กน้อย กลิ่นแอมโมเนียจะทำให้มดแมลงไม่กล้าเข้ามาใกล้ถังขยะอีก

8. การรักษาเครื่องมือทำสวนที่เป็นโลหะไม่ให้ผุกร่อนได้ง่ายมี วิธีการรักษาโดยใช้วาสลินทาผิวของโลหะทุกครั้งเมื่อใช้เสร็จแล้ว และนำมาทำความสะอาดอีกครั้ง

9. การใช้เตาแก๊สแบบประหยัด ทำได้โดยปรับเปลวไฟให้เป็นสีน้ำเงินเสมอ และไม่ควรเปิดไฟแก๊สให้สูงกว่าก้นหม้อด้วยจะทำให้หม้อร้อนช้า ควรปรับระดับให้พอดีกับก้นหม้อ

10. วิธีดับกลิ่นเหม็นในถังขยะไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้านหรือในบ้านให้หมดกลิ่นได้ทำได้โดยใส่เปลือกมะนาว หรือเปลือกส้ม เขียวหวาน ส้มโอก็ได้ใส่ลงไปในถังขยะ กลิ่นส้มจะไปลดกลิ่นลงทำให้มีกลิ่นน้อยลง

11. การขัดรอยแมลงวันบนกระจกมีเคล็บลัดคือ ใช้ผงกาแฟคั่วหนึ่งช้อนผสมกับน้ำมันก๊าดหนึ่งลิตร และใช้เศษผ้าชุบเช็ดกระจกรอยแมลงวันก็จะหมดไป

12. หากต้องการทาสีห้องใหม่ แต่กลัวว่าห้องจะมีแต่กลิ่นเหม็นของสี อยู่หลายวันมีวิธีขจัดกลิ่นเหม็นของ สีคือก่อนจะทาสีให้ผสมน้ำวานิลลา 1 ช้อนชาต่อสี 1 แกลลอนคนให้เข้ากันแล้ว จึงนำไปทาห้อง สีที่ ทาใหม่จะไม่มีกลิ่นเหม็นเป็นเด็ดขาด

13. วิธีการป้องกันไม่ให้ถุงในเครื่องดูดฝุ่นโดนแมลงกัดเป็นรูคือ นำการบูรหรือลูกเหม็นใส่เข้าไปในถุงดูดฝุ่นสัก 1 ก้อน นอกจากป้องกันแมลงแล้วยังป้องกันกลิ่นอับอีกด้วย

14. แก้ปัญหายุงไปไข่ทิ้งไว้ในแท็งก์น้ำ ทำให้มีลูกน้ำว่ายวนอยู่ในแท็งมีวิธีทำคือ นำอิฐแดงๆ ที่ใช้ในการก่อสร้างมาเผาไฟให้ร้อนๆ แล้วเอาใส่ลงไปในแท็งก์น้ำทันที เพียงเท่านี้ยุงจะไม่กล้าเข้าไปไข่ทิ้งไว้อีกเลย

15. วิธีกำจัดต้นหญ้าที่ขึ้นไม่ถูกที่ ทำได้โดยใช้เกลือโรยตรงส่วนที่ต้นหญ้าขึ้น เหตุเพราะเกลือจะไปทำให้ดินตรงที่ต้นหญ้าขึ้นอยู่เค็มจึงทำให้ต้นหญ้าตายในที่สุด

16. น้ำประปาที่มีกลิ่นคลอรีนแรงมากมีวิธีกำจัดกลิ่นให้หมดไปโดยฝานมะนาวบางๆ ลงไปในน้ำ มะนาวจะช่วยดูดกลิ่น คลอรีนให้หมดไป และทำให้น้ำดื่มได้อีกด้วย

17. ขอบยางประตูตู้เย็นมีราขึ้น จะมีวิธีลบราออกได้โดยใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูแล้วนำ ไปถูตรงขอบยางประตู ตู้เย็นที่เป็นรา ราก็ออกไปได้โดยง่ายดาย

18. ขจัดปัญหาหมาแมวฉี่และอุจจาระไม่เลือกที่ทำได้โดยการโรยพริกไทยป่นลงไป บนที่มันเคยฉี่หรืออุจจาระไว้ เพียงเท่านี้หมา แมวก็จะดมกลิ่นหาที่ที่มันเคยฉี่และ อุจจาระไม่เจอ เหตุเพราะพริกไทยป่นจะไปดับกลิ่นหมด ทางที่ดีควรสอนให้มันฉี่และอุจจาระ ในห้องน้ำ หรือบนกระดาษที่เราควรจะวางไว้ให้จนเคยชิน

19. การรักษาไม้กวาดดอกหญ้าที่ซื้อมาใหม่ให้ใช้ไปได้นานๆ ทำได้โดยการจุ่มไม้กวาด ดอกหญ้าในน้ำเกลือร้อนๆ ขนของไม้กวาดจะเกาะตัวกันเวลาใช้จะทนทานไม่ขาดง่าย

20. ตะปูที่ตอกไว้ข้างฝาคอนกรีตสำหรับแขวนรูปหลวม มีวิธีแก้ไขง่ายๆ คือ ใช้สำลีพันตะปูชุบกาวและตอกเข้าไปใหม่ กาวที่สำลีจะยึดติดกันแน่น

21. วิธีการขจัดกลิ่นเหม็นสาปที่ติดอยู่ในกระติกน้ำแข็งทำได้โดยนำเบกกิ้งโซดามาผสม กับน้ำร้อน และนำมาล้างถูกระติกน้ำให้ทั่ว แล้วล้างน้ำอีกครั้งกลิ่นสาปก็จะหายไป

22. วิธีการเก็บสายยางที่ยาว ไว้โดยไม่เปลืองเนื้อที่ ทำได้โดยม้วนสอดเข้าไปในยางรถ ยนต์อันที่ไม่ใช้แล้ว เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

23. ขจัดปัญหากลิ่นส้วมเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบ้านคือใช้นำมันก๊าดประมาณ 1 ขวดใหญ่ มาเทราดลงไปในคอห่านแล้วเทน้ำตามลงไปเพื่อขจัดกลิ่นน้ำมันก๊าดให้หมด

24. วิธีป้องกันหมาแมวตัวโปรดมากัดแทะเฟอร์นิเจอร์ในบ้านคือใช้น้ำมันยูคาลิปตัส หรือน้ำมันที่มีกลิ่นฉุนทาที่เฟอร์นิเจอร์ กลิ่นฉุนนั้นจะทำให้มันไม่กล้าเข้ามากัดแทะอีก

25. วิธีขจัดรอยเปื้อนด่างดำบนเครื่องใช้ที่เป็นหนังคือ หยดน้ำมันสลัดสัก2-3 หยด ในน้ำสบู่ แล้วใช้แปรงจุ่มน้ำที่ผสมไว้มาถู จากนั้นจึงซักในน้ำสบู่ธรรมดาอีกครั้ง แล้วล้างด้วยน้ำเย็น ต่อด้วยเช็ดให้แห้งผึ่งลมไว้

26. วิธีการดึงสติกเกอร์ที่ติดอยู่บนฝาห้องออกโดยไม่ทิ้งคราบกาวไว้ที่ฝาทำได้โดยใช้น้ำมันพืชมาทาบนรูปสติกเกอร์ แล้วจึงค่อยๆ ดึงออกมา

27. การใช้เครื่องซักผ้าแบบประหยัดที่สุดคือในการซักผ้าแต่ละครั้งควรจะซักผ้าในปริมาณที่มากที่สุด

28. การทำให้ตู้เสื้อผ้าของคุณหอมได้โดยที่ไม่ต้องเปลืองเงินซื้อมาใส่ เพียงแต่คุณใช้เศษสบู่ที่จะทิ้งแล้วไปวางไว้ในมุมใดมุมหนึ่งของตู้ กลิ่นสบู่นั้นก็จะหอมไปทั่วตู้เลย

29. วิธีทำความสะอาดภาชนะอลูมิเนียมให้ใสสะอาดเหมือนใหม่คือนำเอาเปลือกแอปเปิ้ล ต้ม 2-3 นาที แล้วใช้น้ำขัดถูภาชนะอะลูมิเนียมก็จะดูเงาวามเหมือนใหม่

30. วิธีการใช้เตาอบให้ใหม่อยู่เสมอคือ หลังจากใช้เตาอบแล้วควรเช็ดทำความสะอาดทุกครั้ง และทำใน ขณะที่เตายังอุ่นๆ อยู่ เพราะจะเช็ดได้ง่ายกว่าในขณะที่เย็นแล้ว

31. วิธีขจัดรอยคราบเหนียวบนผนังตู้เย็นคือ ใช้น้ำมันพืชเทลงบนกระดาษเช็ดมือ แล้ว ถูจนสะอาด ทำสัก 2-3 ครั้ง น้ำมันพืชจะไม่ทำลายความเงาของตู้เย็นหรอก

32. วิธีขจัดกลิ่นเหม็นของท่อระบายน้ำล้างจาน ให้หอมสดชื่นได้คือเทเบกกิ้งโซดา 1 ถ้วย ลงไปในท่อระบายน้ำทิ้งไว้ 5 นาที เทน้ำส้มสายชูตามลงไปอีก 1 ถ้วย จะขจัดกลิ่นเหม็นได้ดีจริงๆ

33. ในการใช้ยาขัดเฟอร์นิเจอร์ไม่ควรใช้ประเภท เช่น น้ำมัน ขี้ผึ้งบ่อยๆ เพราะอาจจะทำให้ผิวเฟอร์นิเจอร์เกิดความเสียหายได้ง่าย

34. ในการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นผ้าฝ้าย ให้ใช้แปรงทาสีด้ามใหม่ปัดตาม ซอกมุมเฟอร์นิเจอร์ไปพร้อมกันกับการทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ทุกครั้ง

35. การทำความสะอาดในซอกเล็กซอกน้อยของโคมไฟ ให้ใช้เครื่องเป่าผม เป่าลมไปตาม ที่มีฝุ่นละอองจับแล้วเช็ดถูทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำอีกครั้ง โคมไฟก็จะดูใหม่เสมอ

36. วิธีลบคราบดวงๆ ที่ติดบนเฟอร์นิเจอร์คือ ให้ใช้จุกไม้ก๊อกถู ถ้าไม่ออกให้ใช้นิ้วมือแตะยาสีฟันผสมขี้เถ้าบูหรี่ถูอีกครั้ง จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรอยเปื้อนซ้ำอีกครั้ง

37. การทำความสะอาดพื้นกระเบื้องยางคือ ใช้แปรงสีฟันชุบยาสีฟัน แล้วนำไปขัดถูบริเวณรอยเปื้อนให้แรงๆ จะทำให้รอยเปื้อนหลุดออกไปได้โดยง่าย

38. วิธีการตอกฝาผนังตะปูโดยไม่ให้งอคือ ให้ทาปลายตะปูด้วยน้ำส้มสายชูหรือน้ำมันพืช ก่อนที่จะนำมาตอกฝาผนังจะตอกได้คล่องและไม่งอจริงๆ

39. วิธีการทาสีกำแพงให้ติดอยู่ได้ทนนานคือ ก่อนที่จะทาสีกำแพงให้ล้างกำแพงให้สะอาด ด้วย น้ำมันสนเพื่อขจัดคราบสกปรกและสีที่ทาจะติดทนนานไม่ร่อนออกง่าย

40. วิธีแก้ปัญหาเฟอร์นิเจอร์ไม้โป่งออกมาคือ ให้วางผ้าชื้นๆ ลงบนรอยที่โป่ง ใช้เตารีดร้อนๆ ทับบนผ้า จะทำให้คืนสู่สภาพเดิม

41. วิธีขจัดรอยขีดข่วนบนเฟอร์นิเจอร์ไม้คือ ให้ใช้ผ้าแตะยาขัดรองเท้าที่สีเดียวกับไม้ แล้วถูตรงรอยแล้ว ใช้ผ้าขัดต่ออีกครั้ง รอยขีดข่วนก็จะหายไป

42. วิธีการแก้ปัญหาเก้าอี้หวายหย่อนคือ ถ้าอยากให้ตึงให้ล้างเก้าอี้หวายด้วยน้ำสบู่ร้อนๆ แล้วล้างน้ำสบู่ออก นำออกตากแดดกลางแจ้งให้แห้ง หวายที่หย่อนจะตึงเหมือนเดิม

43. วิธีการทำความสะอาดพื้นบ้านไม้ให้เงางามอยู่เสมอคือ ให้ผสมน้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยต่อน้ำ 8 ลิตร จะช่วยขจัดเศษฝุ่นละอองและพื้นก็เป็นเงางามอีกด้วย

44. การรักษาเฟอร์นิเจอร์โลหะไม่ให้เป็นสนิมได้ง่ายคือให้ เคลือบโลหะด้วยขี้ผึ้งขัดรถ เมื่อจำเป็นต้องเอาเฟอร์นิเจอร์โลหะไว้ตากน้ำค้าง จะได้ไม่ขึ้นสนิมได้ง่าย

45. วิธีการติดรูปโปสเตอร์บนกำแพงโดยไร้ร่องรอยเมื่อดึงภาพออกคือให้ใช้ยาสีฟันแทนกาวในณะที่ติดรูป เมื่อถึงเวลาดึงรูปออก ก็เพียงแค่ขัดยาสีฟันที่แห้งออกเท่านั้น ฝาผนังก็สะอาดแล้ว

46. ถ้าบังเอิญต้องจัดงานเลี้ยงที่มีฟลอร์เต้นรำแบบกะทันหัน ทำได้โดยโรยแป้งผงสำหรับ โรยตัวให้ทั่วก็จะแก้ขัดไปได้ด้วยดีทีเดียว

47. วิธีแก้ปัญหาหน้าต่างปิดและเปิดออกได้ยากคือ ให้เอาน้ำมันเครื่องหยอดตรงราง อลูมิเนียมให้ทั่วเพียงเท่านี้ก็จะทำให้เปิดและปิด ได้ง่ายขึ้นกว่าเก่า

48. วิธีป้องกันไม่ให้มดขึ้นตู้กับข้าวคือ ใช้เศษผ้าหรือเชือกที่เป็นผ้าไปชุบน้ำมันเครื่อง แล้วบิดพอหมาด นำไปผูกไว้ที่ขาตู้กับข้าวทั้งสี่ขา มดก็จะไม่กล้าขึ้นแน่นอน

49. วิธีการไล่ยุงแบบง่ายๆคือ หาการบูรมาห่อด้วยผ้าแล้วมัดไว้กับหลอดไฟฟ้าที่อยู่ภายใน บ้าน ความร้อนของไฟฟ้าจะทำให้การบูร ระเหยออกไป และกลิ่นของการบูรจะช่วยป้องกันยุงไม่ให้มารบกวน

50. วิธีการไล่หนูแบบง่ายๆ และประหยัดเงินคือ นำไม้ยี่โถไปตากแดดให้แห้ง แล้วนำไปบดเป็นผง เสร็จแล้วนำไปโรยตามซอกที่หนูชอบอยู่ เพียงเท่านี้หนูก็พากันขนย้ายครอบครัวหนีออกไปจากบ้านของคุณไปเลย

51. วิธีการกำจัดปลวกที่ขึ้นบ้านแบบประหยัดคือนำน้ำมันเครื่องที่ใช้แล้วมาราดให้รอบ บริเวณบ้าน เพียงเท่านี้ก็จะสามารถไล่ปลวกไม่ให้มารบกวนบ้านอีกต่อไป

52. การขัดพื้นกระดานให้เงาแบบโบราณคือ หามะพร้าวมาผ่าครึ่ง ทุบกะลาตรงปากออก สักเล็กน้อย แล้วนำมาคว่ำลงกับพื้นกระดานขัดถูพื้นบ่อยๆ พื้นกระดานจะมองดูเงางามเชียวแหละ

53. โฟมสามารถใช้เป็นประโยชน์ได้หลายอย่างเช่น ใช้ทำเป็นกาวอุดรอยรั่วของภาชนะได้เป็นอย่างดีคือ ก่อนนำมาใช้จะต้องเอาเศษโฟมหักเป็นชิ้นเล็ก แช่น้ำมันทินเนอร์ให้ละลาย เหนียวข้นแล้วนำไปอุดรอยรั่วปล่อยให้แห้ง ก็จะสามารถใช้ต่อไปได้อีกเป็นระยะเวลา ยาวนาน

54. วิธีการปรับเสาทีวีในบ้านด้วยตัวเองทำได้ง่ายๆ คือ หากระดาษตะกั่วหรือหากระดาษฟอยล์ ที่ห่อปลาเผามาพันรอบๆ สายอากาศด้านหลังทีวีหลายๆ รอบ แล้วค่อยๆ รูดไปตามสาย เรื่อยๆ ให้มีคนคอยสังเกตภายในจอทีวีด้วย ถ้าภาพคมชัดก็ให้บีบกระดาษตะกั่วนั้นติดอยู่ กับสายตรงนั้นเลย ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

55. วิธีขจัดสนิมบนราวตากผ้าคือ หาเศษผ้ามาชุบน้ำส้มสายชูถูให้ทั่วแล้วใช้น้ำสบู่ถูทับอีกที ต่อ จากนั้นเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ตามด้วยผ้าแห้งอีกรอบหนึ่ง สนิมบนราวผ้าก็จะหมดไป

56. การขจัดมีดในครัวเรือนขึ้นสนิมคือ นำมีดนั้นมาถูกับมะนาวหรือหัวหอมก็ได้ แล้วล้างด้วยน้ำ สะอาดเช็ดให้แห้ง รับรองได้ว่ามีดทำครัวของคุณจะปราศจากสนิมมาขึ้นอีกเลย

57. การลับมีดในครัวให้มีความคมและอยู่ได้นานๆ ทำได้โดยหยอดน้ำมันก๊าดสัก 2-3 หยดลงบน หินลับมีดแล้วลับไปตามปกติ รับรองมีดของคุณจะคมกริบเชียวละ

58. วิธีขจัดกลิ่นเหม็นอาหารในตู้เย็นติดน้ำดื่มทำได้โดยนำกากกาแฟหรือกากใบชาที่ชงหมดแล้ว นำมาใส่ไว้ในตู้เย็น กากกาแฟหรือกากใบชา พวกนี้จะดูดกลิ่นอันไม่พึงปรารถนาให้หมดไปจาก ตู้เย็นของคุณ

59. ผงชันยาเรือมีประโยชน์ช่วยป้องกันมดได้อีกแบบหนึ่งคือ นำผงชันยาเรือมาโรยไว้ในขาตู้กับ ข้าว เพียงเท่านี้มดก็จะไม่มารบกวนขาตู้อีกเลย

60. วิธีทำความสะอาดเครื่องซักผ้าให้สะอาดทำได้โดยใช้แอมโมเนียสัก2 แก้วผสมน้ำเย็นธรรมดาครึ่งลิตรใส่ลงในเครื่องซักผ้า แล้วเปิดเครื่องทำงาน น้ำส้มสายชูจะ ช่วยไล่คราบฝุ่นออกจากตัวเครื่องและป้องกันการอุดตันได้ด้วย

61. วิธีทำความสะอาดกรอบกระจกเงาหรือกรอบรูปภาพ ให้มองดูใหม่คือ ให้เอาน้ำมัน ชุบผ้าทาตรงส่วนที่เป็นกรอบ แล้วรอจนแห้งแล้วจะมองดูใหม่ขึ้น

62. วิธีทำความสะอาดเครื่องแก้วโดยไม่ต้องเช็ดคือ ใช้น้ำผสมแอลกอฮอล์ล้าง น้ำผสมผสมแอลกอฮอล์จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกออกได้ง่าย ข้อสำคัญจะแห้งได้เอง โดยไม่ต้องเช็ดด้วยผ้าอีกครั้ง

63. วิธีขจัดกลิ่นเหม็นอับในตู้กับข้าวให้หอมสดชื่นคือ ใช้ปูนขาวเล็กน้อยใส่ชามใบ ย่อมไปวางมุมใดมุมหนึ่งของตู้กับข้าว ทิ้งไว้ประมาณ3-4วัน กลิ่นอับชื้นก็จะ ค่อยจางหายไป

64. วิธีทำความสะอาดคราบสกปรกที่ติดกระเบื้องปูห้องน้ำมีวิธีทำคือ ราดด้วยน้ำให้ทั่ว แล้วเอาเกลือแกงโรยลงบนแปรงขัดทั้งห้องน้ำหรืออาจจะโรยเกลือที่ผ้าเปียกน้ำ แล้วขัดพื้นให้ทั่ว เพียงเท่านี้ ห้องน้ำกระเบื้องของคุณก็จะสะอาดเป็นเงางาม เลยทีเดียว

65. วิธีการทำความสะอาดผ้าม่านที่เป็นใยสังเคราะห์ ควรซักด้วยมือ ก่อนซักควรปัดฝุ่นให้สะอาดก่อน หลังจากนั้นเทน้ำยาซักผ้าลงบริเวณที่เปื้อน แล้วจุ่มลงในน้ำยาซักผ้า ที่ผสมน้ำอุ่นแล้วอย่าบิด ควรคลี่ตากเพราะในเวลาแห้งจะได้ผ้าม่านที่เรียบไม่ยับยู่ยี่

66. วิธีทำความสะอาดงาช้างที่มีคราบฝุ่นติดอยู่เต็มไปหมดคือ นำมาถูด้วยมะนาวกับ เกลือ แล้วล้างออกด้วยน้ำสบู่แล้วเอางาช้างวางไว้กลางแดดทั้งๆ ที่ยังเปียกน้ำน้ำสบู่อยู่ ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง แล้วล้างด้วยน้ำสะอาด เมื่อแห้งแล้วขัดด้วยผ้าสักหลาด ก็จะได้งาช้างสะอาดดังเดิม

67. วิธีทำความสะอาดคราบเหลืองที่ติดตามภาชนะเคลือบสีขาวมีวิธีทำคือ ใช้น้ำมันพาราฟินถูรอยสกปรก น้ำมันพาราฟินจะช่วยขจัดคราบสกปรกคราบเหลืองของ ภาชนะเคลือบขาวได้

68. วิธีทำความสะอาดคราบดำของกาแฟที่หม้อต้มคือใช้ผงซักฟอกที่ใช้กับเครื่องซักผ้า 1 ช้อนโต๊ะใส่น้ำจนเต็มหม้อ แล้วแช่ไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงจึงล้างออก

69. วิธีขจัดรอยเปื้อนบนผ้าปูโต๊ะให้สะอาดคือ ให้โรยเกลือป่นตรงรอยเปื้อน ใช้น้ำ ร้อนราด แล้วนำไปแช่ในน้ำนมสดต้มด้วยไฟอ่อนๆแล้วจึงนำไปซักรอยที่เปื้อน

70. วิธีทำความสะอาดโป๊ะไฟ โคมไฟในส่วนที่ทำความสะอาดยากเช่น รอยจีบซอกเล็ก ซอกน้อย ให้ใช้ เครื่องเป่าผมเป่าลมไปตามที่มีฝุ่นละอองจับ แล้วค่อยๆ ใช้ผ้าชุบ น้ำยาล้างจานเช็ด ตามด้วยผ้า สะอาดเช็ดอีกครั้ง เพียงเท่านี้โคมไฟที่ว่าหมองจะ ใหม่สะอาดทันที

71. วิธีทำความสะอาดผ้าม่านพลาสติก ควรซักด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ หรือน้ำยาซักผ้าที่ผสม น้ำอุ่น แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ใช้ตากลมดีกว่าตากแดด เพราะจะไม่ทำให้ผ้าม่านสี จืดจางลงไป

72. วิธีการทำความสะอาดกระจกเงาส่องหน้าให้ใสคือ นำยาสีฟันมาบีบใส่ไว้บนกระจกแล้วหาผ้าชุบน้ำมา เช็ดยาสีฟันที่บีบทิ้งไว้บนกระจก โดยถูให้ทั่วๆ กระจก แล้วใช้ผ้าเช็ดอีกครั้ง กระจกเงาที่หมอง จะดูเงางาม เป็นประกายทันที

73. วิธีทำความสะอาดคราบน้ำมันบนพื้นปูนซีเมนต์ให้สะอาดเอี่ยมคือหาขี้เถ้าที่อยู่ใน เตาถ่านมาโรยไว้บนคราบน้ำมันที่เปื้อนพื้นปูนซีเมนต์ให้ทั่ว ทิ้งไว้สักครู่ล้างออก ด้วยน้ำให้สะอาด ขี้เถ้าก็จะดูดคราบน้ำมันออกไปจนหมดเกลี้ยง

74. วิธีทำความสะอาดรอยดินสอหรือดินสอเทียนที่ติดบนวอลล์เปเปอร์คือ ให้ใช้ เครื่องเป่าผมโดยใช้ลมร้อนจี้ตรงบริเวณนั้น แล้วหาผ้าฝ้ายชุบน้ำสบู่บิดให้ หมาด นำมาเช็ดถูตรงรอยเปื้อน รอยของสีนั้นก็จะจางหายไป

75. วิธีทำความสะอาดคราบตะกอนที่ติดฝักบัวอาบน้ำคือ สำหรับแบบที่ไม่สามารถ ถอดออกได้ ให้หาถุงพลาสติกใส่น้ำส้มสายชูพอประมาณ เอาฝักบัวใส่ไว้ถุงน้ำ ส้มสายชูแล้วผูกถุงให้แน่น ทิ้งไว้สักหนึ่งคืน นำออกมาล้างด้วยน้ำสะอาด หัวฝักบัวก็จะสะอาดและปราศจากคราบของตะกอน ทำให้น้ำไหลสะดวกขึ้น

76. วิธีทำความสะอาดสีที่เปื้อนหน้าต่างผลมาจากการทาบ้าน ให้ใช้น้ำส้มสายชูผสม น้ำเปล่า อัตราส่วน 2 : 1 ตั้งไฟให้ร้อนจัด ใช้แปรงทาสีที่สะอาดจุ่มส่วนผสมที่ยังร้อนอยู่ถูตรงบริเวณรอยเปื้อน รอยเปื้อนดังกล่าวจะหลุดออกได้เอง

77. วิธีทำความสะอาดฝุ่นผงออกจากหมอนอิง ใช้เครื่องอบผ้าก็ได้ โดยตั้งไว้ที่ อุณหภูมิต่ำๆ แล้วใส่ ผ้าขนหนูชุบน้ำบิดพอหมาดลงไปด้วย

78. วิธีทำความสะอาดพื้นที่ทำด้วยไวนิลให้สะอาดหมดจดมีวิธีทำง่ายๆ คือ นำน้ำอุ่น ผสมกับน้ำส้มสายชูในอัตราส่วนเท่าๆ กัน แล้วนำมาล้างพื้นไวนีล เช็ดให้แห้งพื้นก็จะสะอาดสดใสทีเดียว

79. วิธีทำความสะอาดคราบน้ำมันที่ติดอยู่บนวอลล์เปเปอร์ ใช้แป้งฝุ่นผสมน้ำยาทำความสะอาด แล้วนำมาป้ายตรงจุดที่สกปรก ปล่อยทิ้งไว้จนแห้ง ใช้ผ้านุ่มๆ เช็ดออก คราบน้ำมันก็จะติดออกมาด้วย

80. วิธีทำความสะอาดพรมที่เปื้อนคราบน้ำมัน ให้เทเบกกิ้งโซดาลงตรงบริเวณที่ เปื้อนคราบน้ำมัน ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 12 ชั่วโมง แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดตรง รอยเปื้อนน้ำมันนั้น คราบก็จะจางหายไป

81. วิธีทำความสะอาดคราบสกปรกที่เปื้อนกระเบื้องเคลือบ ให้ใช้ส่วนผสมของ ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ และครีมออฟทาร์ทาร์อย่างละเท่ากัน ทาให้ทั่วแล้วล้าง ออกตามปกติ จะทำให้คราบสกปรกนั้นหายไป

82. วิธีทำความสะอาดคราบสนิมออกจากถัง ทำได้โดยใช้น้ำมะนาวใส่ลงไปในบริเวณ ที่เป็นสนิม ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง แล้วล้างออกคราบสนิมก็จะหลุดออกไปด้วย

83. วิธีทำความสะอาดพื้นโรงรถที่เปื้อนน้ำมันเครื่อง ให้โรยด้วยทราย ทิ้งไว้ 1 คืน กวาด ทรายออกไป คราบน้ำมันก็จะหลุดออกไปด้วยกับทรายนั่นเอง

84. วิธีทำความสะอาดหน้าต่างกระจกให้ใสสะอาด ผสมน้ำกับน้ำส้มสายชู 1 : 2 ส่วน แล้วนำไปใส่ในขวดสเปรย์ นำไปฉีดบนหน้าต่างกระจก แล้วใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ เช็ดอีกที หน้าต่างกระจกจะใสจริงๆ

85. วิธีทำความสะอาดเปียโนควรใช้แวกซี่ทำความสะอาดดีที่สุดเพราะสารทำความสะอาด อย่างอื่นอาจจะทำให้ไม้โค้งงอได้

86. วิธีทำความสะอาดเครื่องถ้วยชามคริสตัลให้ดูเป็นประกายเงางาม ให้ใช้ผ้าหนังสัตว์เช็ด ผ้าผนังสัตว์จะกำจัดฝุ่นผง และคราบน้ำออกได้ง่ายกว่าผ้าชนิดอื่นๆ

87. วิธีทำความสะอาดคราบเทียนไขที่ติดแน่นออกจากเชิงเทียน มีวิธีทำง่ายๆ คือ ใส่เชิงเทียนในช่องแช่แข็งทิ้งไว้สักครู่ จะสามารถเอาคราบเทียนออกได้ง่ายและหมดจดทีเดียว

88. วิธีทำความสะอาดทัปเปอร์แวร์ให้หมดกลิ่นอับคือ ให้ผสมวานิลลาสกัด 2 ช้อนโต๊ะกับ น้ำอุ่น 1 ถ้วยตวง แล้วใช้ผ้าชุบเช็ดให้ทั่วกลิ่นอับต่างๆ จะจางหายไป

89. วิธีทำความสะอาดคราบตะกอนที่ติดอยู่ในแจกันดอกไม้ ให้ออกได้โดยง่ายคือ ใช้เม็ดทำความสะอาดฟันปลอมใส่ไว้ในแจกันโดยให้มีน้ำติดอยู่นิดหน่อย เพื่อที่จะ ทำให้เกิด ฟองฟู่ แล้วดึงเอาตะกอนออกมา

90. วิธีทำความสะอาดผ้าม่าน ทำได้โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากป้ายที่ติดมากับผ้าม่าน แล้วจุ่มลงไปในอ่างน้ำอุ่นที่ผสมกับเกลือ 1 ถ้วย แล้วแขวนผ้าม่านให้แห้ง โดยแผ่ให้หมดเนื้อผ้า จะทำให้ผ้าม่านสะอาดและไม่ยับอีกด้วย

91. วิธีการทำความสะอาดตู้ปลาหรืออ่างปลาใช้ฟองน้ำชุบเกลือป่นเช็ดถูให้ทั่ว เพราะ เกลือจะช่วยฆ่าเชื้อโรคที่ติดอยู่ในตู้หรืออ่างปลา และทำให้ตู้ปลาสะอาดหมดจด อีกด้วย

92. วิธีการทำความสะอาดคราบไขมันที่เปรอะเปื้อนจานชาม หม้อ และภาชนะในครัว ให้ ล้างด้วยน้ำอุ่นกับน้ำยาล้างจาน จะทำให้การล้างเป็นไปได้ง่ายขึ้น

93. วิธีการทำความสะอาดกรอบรูปที่ปิดทอง ควรใช้ผ้าแห้งเช็ดฝุ่นให้ออกก็พอแล้ว เพราะ ถ้าใช้ผ้าชุบน้ำจะทำให้ทองที่ปิดอยู่ลอกออกหมด

94. วิธีทำความสะอาดคราบราที่ติดอยู่บนหนังสัตว์ที่ประดับตกแต่งบ้านเรือน ให้ใช้ผ้านุ่มๆ จุ่มแอลกอฮอลล์ผสมน้ำเช็ดให้ทั่วแล้วตากไว้ในที่ร่ม รอยเปื้อนคราบนหนังสัตว์จะหายไป

95. วิธีทำความสะอาดคราบเขม่า หรือคราบควันไฟที่ติดอยู่หน้าเตาไฟ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำส้ม สายชูที่ต้มพอร้อน เช็ดถูตามคราบเปื้อนให้ทั่ว แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกครั้งคราบสกปรก นั้นๆ ก็จะออกไป

96. วิธีขจัดกลิ่นลูกเหม็นที่ติดเสื้อผ้า มีวิธีทำง่ายๆ คือ นำเสื้อนั้นไปพรมน้ำให้แค่ชุ่มพอ แล้วนำเสื้อไปแขวนไว้ในที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก เพียงชั่วข้ามคืนเดียว กลิ่นลูกเหม็น ที่ติดอยู่กับเสื้อผ้าก็จะจางหายไปหมด

97. วิธีทำความสะอาดคนโทแก้วที่เอามือล้วงลงไปทำความสะอาดยากให้ทุบเปลือกไข่ใส่ลง ไป แล้วกรอกน้ำส้มสายชูตามลงไปเล็กน้อยเขย่าขวดแล้วแช่ทิ้งไว้สักครู่ เทเปลือกไข่ ออก ล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกที คนโทแก้วจะมองดูสะอาดหมดจดแล้วยังปราศจากกลิ่นอีกด้วย

98. วิธีทำความสะอาดกะละมังที่เปื้อนคราบด่างทับทิม ให้ใช้เปลือกมะนาวเช็ด เพราะเปลือก มะนาวจะดูดและดึงคราบสีของด่างทับทิมออกไป

99. วิธีทำความสะอาดรอยเปื้อนบนโทรศัพท์ที่มีสีขาว มีวิธีง่ายๆคือ ใช้ผ้าชุบน้ำยาล้างเล็บเช็ดถู ให้ทั่วคราบฝุ่นและรอยเปื้อนต่างๆ ก็จะหายไป

100. วิธีการขจัดขนสุนัขออกจากพรม มีวิธีทำง่ายๆ คือ ใช้ฟองน้ำ ชุบน้ำบิดพอหมาดๆ มาซับ จะสามารถซับขนสุนัขออกได้โดยง่าย

วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555

40 วิธีที่ทำให้บ้านน่าอยู่



40 วิธีที่ทำให้บ้านน่าอยู่

1. จัดตำแหน่งห้องในบ้านให้รับลมมากที่สุด

2. เติมบ่อน้ำในบริเวณทิศใต้ เพื่อให้ลมพัดผ่านผิวน้ำเข้าบ้าน
เพิ่มความเย็นยิ่งขึ้น

3. ลดความสูงของรั้วบ้าน ทำเป็นรั้วโปร่งเพื่อให้ลมพัดผ่าน
เข้าสู่บ้านได้

4. ปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้บังแดด และช่วยให้บ้านเย็นสบาย

5. ปลูกต้นไม้กระถางภายในบ้านเพื่อให้ดูมีชีวิตชีวา
และทำให้อากาศสดชื่น

6. ติดตั้งกันสาดหรือระแนงกันความร้อนจากแสงแดด
ให้กับผนังทิศใต้และทิศตะวันตก

7.การต่อเติมบ้านควรมีทางให้แสงและลมเข้าออกสู่
ภายในบ้านได้ และช่วยให้บ้านเย็นขึ้น

8. ลดพื้นคอนกรีตภายรอบบ้าน ด้วยการปลูกหญ้าหรือพืชคลุมดิน
ช่วยลดการสะท้อนความร้อน จากลานคอนกรีต ลมที่พัดเข้าบ้าน
จึงไม่ร้อน

9. เปิดหน้าต่างทางทิศเหนือและใต้ ช่วยให้อากาศถ่ายและ
ระบายความร้อนออกไป

10 ติดอุปกรณ์กันแดด เช่น ผ้าม่าน หรือมู่ลี่ บริเวณหน้าต่าง
ที่แดดเข้า ช่วยป้องกันรังสีความ้อนได้อย่างมาก

11. ติดฉนวนกันความร้อนให้กับหลังคาและผนังด้านที่โดนแดดจัด
เพื่อป้องกันความร้อนเข้าสู่ในบ้าน

12. ฝ้าเพดานของที่จอดรถหรือระเบียง ติดตั้งฉนวนกันความร้อน
เป็นตัวสกัดความร้อนที่ถ่ายเทเข้าบ้านได้ดีเยี่ยม

13.อย่าติดตั้งฝ้าเพดานในระดับที่ต่ำเกินไปทำให้ความร้อนไม่ถ่ายเท

14. ใช้บล็อกแก้วหรือเปลี่ยนหลังคาโปร่งแสงเพิ่มความสว่างภายในบ้าน

15. ติดตั้งเครื่องดูดควันและพัดลมติดอากาศภายในห้องครัว
ความร้อน กลิ่น และควันที่อยู่ภายในบ้านถูกกำจัดออกไป

16. วางข้าวของเครื่องใช้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
เพื่อลดการสะสมของฝุ่น กลิ่น และเชื้อโรค

17. วางเฟอร์นิเจอร์ในตำแหน่งที่ไม่บดบังแสงสว่าง และบิดกั้นทางลม
และช่วยให้บ้านเย็นขึ้น

18.วางเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากผ้า ซึ่งมีคุณสมบัติในการอมความร้อน
อยู่ติดผนังที่ไม่โดนแดด

19. ทำความสะอาดผ้าม่าน โซฟา พรม ที่เป้นตัวสะสมฝุ่น
ซึ่งเป็นสาเหตุของภูมิแพ้

20 อย่าให้ผนังและสะสมความชื้น ซึ่งอาจทำให้เกิดเชื้อรา
หมั่นทำความสะอาด ซ่อม หรือทาสีใหม่

21. ทำความสะอาดซอกมุมของเฟอร์นิเจอร์ ไม่ให้เป็นที่สะสมฝุ่น

22. ทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

23.ทำความสะอาดกระจกที่หน้าต่าง ประตู เพื่อรับแสงสว่างมากขึ้น

24. ลดการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นตัวสร้างความร้อน
ทำให้ไม่สะสมความร้อนภายในบ้าน

25. ปูพรมเล็กบริเวณที่จำเป็นเท่านั้น ทำความสะอาดได้ง่ายไม่สะสมฝุ่น

26. ใช้ไฟเฉพาะจุดที่จะใช้ความสว่าง และใช้หลอดประหยัดไฟ

27. เปิดหน้าต่างรับลม ระบายอากาศ งดการใช้แอร์

28.ขจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ที่อยู่ภายในบ้าน

29. หาต้นเหตุของควันและฝุ่นที่ลอยเข้ามาในบ้าน และกำจัดต้นเหตุ

30. มีเฟอร์นิเจอร์เท่าที่พอจำเป็น ไม่มากจนทึบ

31. ปิดประตูตู้เย็นทุกครั้ง และไม่เปิดนานหรือบ่อยเกินความจำเป็น

32. ถ้าจะเก็บหนังสือหรือทำห้องสมุดภายในบ้าน ควรมีระบบระบายอากาศที่ดี

33. ติดพัดลมระบายอ่กาศในห้องน้ำ ช่วยลดความอับชื้น อันเป็นที่สะสมของเชื้อโรค

34. ใช้สีโทนอ่อนทั้งภายในและนอกบ้าน ช่วยให้ผนังไม่สะสมความร้อน

35. เติมกลิ่นหอมต่างๆตามมุมบ้าน ทำให้สดชื่น อารมณ์ดี

36. สร้างเสียงธรรมชาติ เสียงเพลงเพราะๆคลอเบาๆ ทำให้เกิดอารมณ์สดชื่น

37. ทาสีผนังด้วยสีโทนอ่อน ช่วยลดการสะสมความร้อน และทำให้บ้านดูสว่างขึ้น

38. ติดภาพธรรมชาต วิวทิวทัศน์ เพื่อให้พักผ่อนสายตา

39. มีสิ่งประดิษฐ์เล็ก สำหรับประดับตกแต่งบ้าน ทำให้ดูน่ารัก และน่าอยู่ขึ้น

40. ปลูกต้นไม้ใส่กระถางเล็ก เพื่อแขวนตามผนังบ้าน ทำให้สดชื่น